วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

หากเมืองไทยจะต้องมีคาสิโน (CASINO) ตอน 3

กลับมาที่หัวข้อบ่อนพนันหรือคาสิโน (CASINO gclub) ผู้เขียนพบว่าเหตุผลของผู้คัดค้านนั้นประกอบด้วยหัวข้อหลายหัวข้อ ซึ่งผู้เขียนจะขอวิพากษ์ทีละหัวข้อเพื่อให้ชัดเจนกับอ่านง่าย มีดังต่อไปนี้ ในเหตุผลของผู้คัดค้านนั้น ผู้เขียนมองว่าพวกเขานั้นออกจะหวาดกลัวกับการท้าทายศีลธรรมมากไปหน่อย ก็เหมือนกับที่เมื่อปี พ.ศ.2544 ( ค.ศ.2001 สมัยนั้นผู้เขียนอยู่ ม.5 อายุราว 16 ปี เริ่มเขียนกระทู้วิจารณ์สังคมแล้ว ) นโยบายตั้งตู้ขายถุงยางอนามัยเป็นเรื่องที่ถูกต่อต้านเช่นเดียวกับเร็วๆ นี้ที่โฆษณาชุด “ ยืดอกพกถุง ” ก็ถูกต่อต้านเพราะกลัวว่าจะยั่วยุให้มีอะไรกันก่อนวัยอันสมควร ผู้เขียนก็งงอีกว่าเหล่าผู้ที่ต่อต้านอยู่ในยุคไหนหรือ? ถ้าเป็นสมัยก่อนที่ผู้เขียนจะเกิด ( ผู้เขียนเกิด พ.ศ.2528 หรือ ค.ศ.1985 ) มันก็คงได้อยู่เพราะเทคโนโลยีมันไม่แพร่หลาย หนุ่มสาวเจอกันก็แค่งานเทศกาล กับส่วนใหญ่อยู่ในสายตาพ่อแม่ ติดต่อกันทางจดหมายกับโทรศัพท์บ้าน มิใช่สมัยนี้ที่ผมกล้าท้าท่านผู้ทรงศีลธรรมเลยว่า “ คุณห้ามพวกเด็กเดี๋ยวนี้ไม่ได้หรอก ” แม้ว่าไม่นานมานี้ผู้เขียนจะสนับสนุนการแยกหอพักชาย – หญิงก็ตาม นั่นเพื่อเป็นการดึงเวลาเพื่อให้ได้คิดกันก่อนทำอะไรลงไปก็เท่านั้น แต่ท้ายที่สุด เมื่อคนมันอยากทำ มันก็หาทางทำจนได้ ดังนั้นการส่งเสริมให้รู้จักป้องกันมันไม่ดีกว่าหรือ 1. ผู้คัดค้านบอกว่า การเปิดบ่อนการพนัน เท่ากับขัดต่อคำว่า “เมืองไทยเมืองพุทธ ” ดังนั้นทำไมท่านผู้ที่ภูมิใจนักหนากับคำว่าเมืองพุทธ กลับยังทำในสิ่งต่อไปนี้- ขอโชคลาภทุกวันที่ 1 กับ 16 ของเดือน หนังสือพระไม่ใช่สอนธรรม แต่แนะนำวัดขลังๆ- ถ้ามองว่าการเที่ยวสถานบริการเป็นสิ่งที่ผิดศีลข้อ 3 เหตุใดจึงยังมี ออน. หลายแห่งในเมืองหลวง แต่กลับไปไล่จับพวกที่ Gclub ไม่มีสังกัดย่านต่างๆ ( ผู้เขียนไม่ขอกล่าว แต่ผู้อ่านคงทราบดีว่าแถวไหนบ้าง แฮ่ๆ ) กลายเป็นแหล่งส่วยชั้นดีให้ตำรวจท้องที่อีกต่างหาก- ดื่มสุราเมื่อมีงานสังสรรค์แทบทุกเทศกาล ทั้งปีใหม่ สงกรานต์ งานบวช งานแต่ง ฯลฯ กับยินยอมให้มีการขายสุรากับบุหรี่ในประเทศที่ท่านทั้งหลายเรียกว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ได้ ( ผู้เขียนได้ยินว่าประเทศมุสลิมบางแห่งไม่อนุญาตให้ขายสุราเพราะผิดหลักศาสนาของเขา )
สิ่งเหล่านี้มิใช่เป็นอบายมุขหรอกหรือ? แล้วทำไมถึงปล่อยให้เห็นๆ เป็นที่รู้ๆ กัน ทำไมไม่มีใครคิดจะปราบอย่างจริงจัง มิใช่เพราะมันขัดกับสันดานเดิมของมนุษย์หรือ? ( เหล้า Sex การพนัน ) ทำไมต้องปล่อยไว้ให้เป็นสีเทาเช่นนี้ เพราะพวกท่านรู้ใช่หรือไม่ว่าสังคมยอมรับได้ กับหากสุดโต่งเกินไป สุดท้ายกฏต่างๆ ก็กลายเป็นกฏตลกๆ กับตำรวจจะทำงานยากขึ้น เพราะแทบจะไม่มีประชาชนที่ไหนให้ความร่วมมือเลยใช่หรือไม่?
2.ผู้คัดค้านบอกว่า เมืองไทยไม่อาจจะควบคุมระบบได้ ถ้าปล่อยเปิดเสรีไป สุดท้ายก็จะซ้ำรอยสมัยโบราณที่คนไทยติดการพนันงอมแงม ตรงนี้บางท่านที่คัดค้านถึงกับดึงคำกล่าวของรัชกาลที่ 5 ที่ท่านริเริ่มที่จะยุติการเล่นพนันต่างๆ ในสังคมไทยยุคนั้น แน่นอนว่าในยุคนั้นย่อมเหมาะสมที่จะต้องสั่งห้าม เพราะการควบตุมไม่อาจจะทำได้เต็มที่กับชัดเจน เพราะสมัยก่อนไม่มีเครือข่าย Internet ไม่มีโทรทัศน์ ไม่มีมือถือ ใครก่อคดีฆ่ากันที่หนึ่ง พอหนีไปอีกที่หนึ่ง ข้ามจังหวัดข้ามมณฑลโอกาสถูกจับก็ยากแล้ว ( จึงเกิดชุมเสือ – เมืองเจ้าพ่อมากมายใน ตจว. ) แต่หากเป็นสมัยนี้ ผู้เขียนว่าไม่ยากเกินไปที่จะควบคุมได้ ตรงนี้ผู้เขียนอยากจะแนะนำสักหน่อยในแนวคิดเรื่องการจำกัดขอบเขต มิให้มันแพร่ขยายจนเกินไป ซึ่งมีขั้นตอนดังต่อไปนี้- โครงการนี้ต้องห้ามทำแบบเร่งรีบขยายตัว ในระยะแรกให้เอกชนเข้ามาประมูล ทำสัมปทานให้เรียบร้อย โดยอนุญาตให้เปิดตอนนี้ได้ใน จว. เดียวเท่านั้นเพื่อทดลองดูว่าจะควบคุมระบบได้ไหม ได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งผู้เขียนค่อนข้างเชื่อในระบบการบริหารของเอกชน เพราะเอกชนมักถูกวิพากษ์วิจารณ์กับตรวจสอบได้ง่ายกว่าหน่วยงานของรัฐ ( โดยเฉพาะจากสื่อมวลชนกับจาก NGO ) กับเมื่อทำผิดย่อมมีโอกาสถูกดำเนินคดีได้ง่ายกว่าตนของรัฐเป็นธรรมดา- จังหวัดที่จะตั้งคาสิโน (CASINO)ได้ ต้องเป็นจังหวัดที่ห่างไกล อยู่ตามชายแดนเท่านั้น ทั้งนี้เพราะจุดประสงค์ดั้งเดิมคือต้องการแข่งกับบ่อนในประเทศเพื่อนบ้าน กับปกตินักพนันต้องข้ามฝั่งไปอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ควรตั้งบ่อนในเขตประเทศชั้นกลางหรือชั้นใน ทั้งนี้การเดินทางไกลก็ถือว่าทำให้ยับยั้งชั่งใจได้ทางหนึ่ง ( ยิ่งในหมู่คนรายได้ไม่มากยิ่งต้องชั่งใจให้หนัก เพราะเสียทั้งค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าอาหารที่ปกติเมืองท่องเที่ยวมันก็แพงกว่าปกติอยู่แล้ว ตรงนี้จะกรองคนได้ในระดับหนึ่ง )- การประชาสัมพันธ์ อนุญาตให้ประชาสัมพันธ์ได้ทาง นสพ.บางประเภทเท่านั้น ( จำพวก นสพ. กีฬาที่มีอัตราต่อรองเฉพาะ ซึ่งปกติพวกนี้มีโฆษณา ออน. กับอัตราต่อรองฟุตบอลอยู่แล้ว ) ทั้งนี้ผู้เขียนเห็นว่า คนอ่าน นสพ. ประเภทนี้ส่วนใหญ่ยังไงก็ต้องเล่นพนันฟุตบอลบ้างไม่มากก็น้อย กับเด็กๆ ก็มักจะไม่นิยมอ่าน อยู่แล้ว ไม่อนุญาตให้โฆษณาทางวิทยุ โทรทัศน์ หรือติดป้ายโฆษณาใหญ่ๆ พูดง่ายๆ ใช้ลักษณะการควบคุมแบบเดียวกับที่ควบคุมบุหรี่มิให้โฆษณาตามสื่อต่างๆ ทั้งนี้เพื่อไม่เป็นการเชิญชวนให้เยาวชนคิดจะเข้าไปเล่น- กฏระเบียบในการเล่น ต้องมีการทำประวัติ สำหรับขาประจำให้ทำบัตรสมาชิกที่ผู้เล่นต้องมีทรัพย์สินจำนวนมากพอสมควร ต้องเปิดบัญชีธนาคารไว้บัญชีหนึ่งให้ทางคาสิโน (CASINO)โอนเงินเข้า – ผู้เล่นชำระเงินออก กับต้องมีการแจ้งบัญชีทรัพย์สินกับหนี้ให้ตรวจสอบโดยมีกำหนด….ครั้ง/ปี ( ตรงนี้ต้องขอท่านผู้มีความรู้พิจารณา ) หากพบว่าต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ไม่อนุญาตให้ต่ออายุสมาชิกโดยบัตรสมาชิกนี้เป็นแบบ Online สามารถตรวจสอบข้อมูลจากบัญชีธนาคารที่เปิดไว้ให้เงินพนันหมุนเวียน โดยสมาชิกต้องมีในหลายระดับ ว่าสมาชิกระดับไหนให้เล่นได้เท่าไร ถ้าเกินวงเงินไม่อนุญาตให้เล่น ผู้เขียนค่อนข้างเชื่อในการบริหารจัดการของเอกชน เชื่อว่าเอกชนคงเห็นแก่ผลกำไร ดังนั้นคงไม่ปล่อยให้พวกจับเสือมือเปล่าเข้ามาเล่น กับคงไม่ปล่อยให้หยิบยืมแป๊ะไว้กับคาสิโน (CASINO) เพราะโอกาสได้คืนนั้นยากมาก แถมมีโอกาสถูกตรวจสอบต่อต้านจากภาคสังคมเสียอีก ดีเสียกว่าปล่อยไปเล่นนอกประเทศแล้วเล่นจนหมดตัว จนต้องฆ่าตัวตายหรือถูกจับไปเรียกค่าไถ่ใช้หนี้- งบประมาณที่รัฐเก็บได้ ต้องแจ้งแก่สาธารณชนทราบ กับต้องนำไปใช้เพื่อกิจการสังคม ( การศึกษาหรือสาธารณสุข ) เท่านั้น ไม่นำไปปะปนกับงบประมาณอื่นๆ เช่นงบความมั่นคง หรืองบอุดหนุนเงินนักการเมือง ฯลฯ- กำหนดพื้นที่ ( Zone ) ของคาสิโน (CASINO)ชัดเจนแบบการกำหนดพื้นที่สนามบิน โดยห้ามผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปในอาณาเขตของคาสิโน (CASINO)เป็นอันขาด โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้รับผิดชอบส่วนนี้มิใช่ให้เอกชนรับผิดชอบทั้งหมด ( อย่างน้อยก็จะได้เกิดการคานกันเองระหว่างตำรวจกับเอกชน ส่วนจะฮั้วกันหรือไม่ ภาคสื่อมวลชนน่าจะตรวจสอบได้ )

คาสิโนออนไลน์,บาคาร่า

หากเมืองไทยจะต้องมีคาสิโน (CASINO) ตอน 2

หัวข้อต่อมา วงหวยใต้ดิน โต๊ะบอล กับคาสิโน (CASINO gclub) จำพวกนี้เป็นสิ่งที่เราต้องพูดถึงกัน ต้องแยกกันก่อน ในไทยเราเล่นพนันได้ 2 กลุ่มใหญ่ๆ กลุ่มแรกคือ “ วงพนันชั่วคราว ” อันได้แก่วงไพ่ก็ดี ไฮโลก็ดี พวกนี้มักเกิดตามบ้าน เป็นวงเล็กๆ เล่นกันได้เสียไม่มากนัก กับมักจะเล่นกันแค่ในโอกาสต่างๆ เช่นงานศพที่ต้องมีคนเฝ้าศพ หรือวงเหล้าพอมีคนมาสังสรรค์มากๆ เมื่อหมดงานก็สลายกันไป วงพนันจำพวกนี้ไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไรนัก เพราะบอกไปแล้วว่าเล่นกันน้อยๆ ไม่ได้เอาเป็นเอาตาย จะว่าไปคงเหมือนการพนันฟุตบอลที่เพื่อนๆ กันตกลงประกบคู่คนละไม่กี่สิบบาทนั่นล่ะ ( เชื่อเถอะ สมัยเรียนต้องมีกันบ้างเวลาเทศกาลฟุตบอลสำคัญๆ เช่นฟุตบอลโลกหรือยูโรฯ ) แต่ที่ต้องพูดถึงกันคือกลุ่มที่สอง อันได้แก่บ่อนพนันที่มีเจ้ามือทำกันเป็นเรื่องเป็นราว มีจุดมุ่งหมายให้คนทั่วไปเข้ามาแทงโดยไม่ได้จำกัดว่าเป็นญาติๆ เพื่อนๆ กันแบบกลุ่มแรก มีการล่อใจกับชักชวนกันปากต่อปาก แบบนี้ก็ได้แก่ gclub เป็นที่รู้กันดีว่า นักพนันในไทยต้องหอบเงินไปเล่นที่บ่อนพนันชายแดนประเทศเพื่อนบ้านทางตะวันออกเฉียงใต้กันมากทำให้สูญเสียเม็ดเงินมหาศาล ( อย่าลืมว่านอกจากการไปเล่นพนันแล้ว ข้าวปลาอาหาร กระทั่งบริการพิเศษเช่น ออน. ก็ยังมีพร้อมในบ่อนพวกนั้น ) แถมเล่นไม่บันยะบันยัง หมดตัวเป็นหนี้ก็ไม่น้อย ขณะเดียวกัน รัฐต้องสูญเสียงบประมาณจำนวนมากกับการจับบ่อนเถื่อน ตั้งแต่ระดับเล็กไปถึงระดับใหญ่เช่นกัน กับบ่อยครั้งที่ทางตำรวจไม่ได้รับความร่วมมือทางการข่าวจากประชาชน ในทางตรงกันข้าม ประชาชนกลับเป็นสายให้ทางบ่อนในการระวังภัยจากตำรวจเสียด้วย เพราะอย่างที่บอกไปแล้ว คนไทยกับการพนันเป็นของคู่กัน ดังนั้นตำรวจจึงกลายเป็นตัวตลกไปในหลายๆ ครั้ง เรื่องนี้หากจะเปรียบก็คงประมาณยุคหนึ่งที่สหรัฐอเมริกาห้ามขายเหล้า ปรากฏว่ากำเนิดกลุ่มมาเฟียมากมายจับอาวุธสู้กับรัฐบาล เออ! ก็แปลกดีเหมือนกัน แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่าเหล้าหนึ่ง Sex หนึ่ง การพนันหนึ่ง 3 สิ่งนี้เป็นสันดานของมนุษย์ที่ยากจะถูกเปลี่ยนแปลงได้ แม้ว่าโลกจะมีระบบศีลธรรมมากมายแค่ไหนก็ตาม ดังนั้นในเมื่อรัฐต้องลำบากขนาดนี้แล้ว การจะทำให้มันถูกกฏหมาย โดยที่เราสามารถควบคุมได้ ( ต้องใช้คำว่า “ ต้องควบคุมให้ได้ ” ) มันจะไม่ดีกว่าหรือ?

คาสิโนออนไลน์,บาคาร่า

หากเมืองไทยจะต้องมีคาสิโน (CASINO) ตอน 1

เป็นที่ถกเถียงกันมากกับประเด็นร้อนที่ว่า เมืองไทยจำเป็นแค่ไหนกับการเปิดคาสิโน (CASINO Gclub) หรือบ่อนการพนันที่ถูกต้องตามกฏหมาย แนวคิดที่กำลังได้รับความสนใจ มีทั้งกระแสต่อต้านกับสนับสนุนเกิดขึ้นมากทุกหัวระแหงของสังคม บ้างก็ว่าควรเปิดเพราะต้องนำเงินเข้ารัฐกับกำจัดบ่อนเถื่อนของเจ้าพ่อท้องถิ่น บ้างก็ว่าไม่สมควรเปิดโดยอ้างเหตุผลทางศีลธรรมมาคัดค้าน
ก่อนอื่นคงต้องเข้าใจกันเสียก่อนว่า สังคมไทยกับการพนันเป็นของคู่กัน คนสมัยก่อน ( กระทั่งสมัยนี้ตาม ตจว. ) ก็นิยมเล่นกัดปลา ชนไก่กันเป็นกิจกรรมยามว่างอยู่แล้ว ในยุคต่อมามีคนจีนมาตั้งรกราก การพนันแบบจีนก็แพร่หลาย ครั้นกระทั่งยุคที่ตะวันตกมีอิทธิพล การเล่นไพ่แบบตะวันตกก็เข้ามาแทนที่จนถึงปัจจุบัน พูดง่ายๆ คนไทยกับการพนันเสี่ยงโชคเป็นของคู่กันอย่างน่าประหลาด ผู้เขียนเคยอ่านเจอจากหนังสือเรียนเล่มหนึ่งในระดับมหา’ลัย ( ตอนนี้ผู้เขียนกำลังเรียนอยู่รัฐศาสตร์ ม.รามฯ ) มีการเขียนว่าประเทศตะวันตกมีการออกสลากกินแบ่ง หรือที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า “ ล็อตเตอรี่ ” หากแต่กลับไม่ได้รับความนิยม ตรงกันข้ามกับประเทศไทยที่หวยทั้งบนดินกับใต้ดินเป็นเหมือนวัฒนธรรมหนึ่งในสังคม เป็นวิถีประชาก็ว่าได้เฉกเช่นการเล่น “ ปาจิงโกะ ” ของญี่ปุ่นที่เป็นเรื่องปกติในสังคมของเขา

คาสิโนออนไลน์ บาคาร่า